บ้านเป็นสถานที่ที่ทุกคนได้กลับมาพักผ่อนและเติมพลังหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย แต่สำหรับใครหลาย ๆ คน ความยุ่งเหยิงในบ้านกลับกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ขัดขวางความสุขและความสงบ บ้านที่เต็มไปด้วยของใช้ที่ไม่เข้าที่และคราบสกปรกอาจทำให้รู้สึกหนักใจเมื่อถึงเวลาที่ต้องจัดการ หลายคนไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน และบางครั้งการไม่มี อุปกรณ์ทําความสะอาดบ้าน ที่เหมาะสมก็ทำให้งานดูยากเกินไปอีกด้วย
ดังนั้น การทำความสะอาดบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงามหรือความเรียบร้อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่และส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย เพราะบ้านที่สะอาดและจัดระเบียบอย่างดี คือ ที่ที่ช่วยให้ทุกคนรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายได้จริง ๆ บทความนี้ จึงได้รวบรวมทั้งอุปกรณ์ที่ควรมีและเคล็ดลับในการทำความสะอาดที่ช่วยให้บ้านของคุณอยู่ในสภาพสะอาดวิ๊งวั๊บ ไม่ว่าปัญหาจะเป็นบ้านจะรกแค่ไหน มีคราบฝังแน่น หรือทำความสะอาดแสนจะยากเย็น ทุกอย่างสามารถจัดการได้อย่างราบรื่น เพียงแค่คุณมีตัวช่วยที่ใช่และวิธีการที่ถูกต้อง บ้านในฝันของคุณก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!
รวม อุปกรณ์ทําความสะอาดบ้าน ง่าย ๆ แบบมืออาชีพ
1. ไม้กวาดและที่โกยผง: ตัวช่วยพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
ไม้กวาดและที่โกยผง เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านต้องมี เพราะช่วยจัดการฝุ่น เศษขยะ และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกไม้กวาดให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากบ้านของคุณปูพื้นกระเบื้อง ควรใช้ไม้กวาดพลาสติกที่มีขนแน่นและยืดหยุ่น เพราะสามารถเก็บฝุ่นละเอียดได้ดี สำหรับบ้านที่มีพื้นไม้หรือพื้นลามิเนต ไม้กวาดขนไก่หรือขนสัตว์ธรรมชาติจะเหมาะกว่า เนื่องจากอ่อนโยนต่อพื้นผิวและช่วยลดรอยขีดข่วน ส่วนที่โกยผง หากเลือกแบบที่มีขอบยาง จะช่วยเก็บเศษฝุ่นได้หมดจดในครั้งเดียว สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
2. ไม้ถูพื้น: คราบไหนก็ไม่เหลือ
ไม้ถูพื้น เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้บ้านของคุณสะอาดหมดจดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคราบสกปรกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มีทั้งแบบแห้งและแบบเปียกให้เลือกใช้ตามลักษณะพื้นผิว หากต้องการเช็ดฝุ่นทั่วไป พื้นไม้หรือพื้นลามิเนต ไม้ถูพื้นแบบแห้งถือว่าตอบโจทย์ แต่หากต้องจัดการคราบหนัก เช่น คราบมันหรือคราบสกปรกในห้องครัว ไม้ถูพื้นแบบเปียกจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า นอกจากนี้ ไม้ถูพื้นที่ทำจากไมโครไฟเบอร์ยังเป็นตัวช่วยที่ได้รับความนิยม เพราะซับน้ำได้ดี ลดแรงในการถูพื้น และยังช่วยให้พื้นแห้งเร็ว ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในบ้าน
3. เครื่องดูดฝุ่น: ตัวช่วยล้ำสมัยสะอาดได้ในพริบตา
ครัวเรือนยุคสมัยใหม่อาจไม่เคยชินการใช้ไม้กวาด แต่จะเน้นให้เครื่องดูดฝุ่นเป็นตัวทุ่นแรงทำงานบ้าน ด้วยพลังดูดที่ช่วยจัดการฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือแม้แต่เศษขยะเล็ก ๆ ได้อย่างหมดจด บ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้าง เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายถือว่าเหมาะสม เพราะมีพลังดูดสูงและใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่สำหรับบ้านขนาดเล็กหรือคอนโด มักนิยมเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายสะดวก การดูดฝุ่นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยลดปริมาณฝุ่นในอากาศ และเมื่อเสริมกับเครื่องฟอกอากาศ ก็จะทำให้บ้านสะอาดและลดความเสี่ยงจากโรคภูมิแพ้ได้อย่างชัดเจน
4. น้ำยาทำความสะอาด: เลือกถูกชนิด บ้านสะอาดปลอดภัย
น้ำยาทำความสะอาด เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้บ้านสะอาดขึ้นไปอีกขั้น การเลือกน้ำยาที่เหมาะสมกับพื้นผิวแต่ละแบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคราบสกปรกได้อย่างมาก เช่น น้ำยาทำความสะอาดพื้นควรมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและไม่ทิ้งคราบเหนียว น้ำยาทำความสะอาดกระจกควรเป็นสูตรใส ไร้สารตกค้าง เพื่อให้กระจกดูใสเหมือนใหม่ และสำหรับพรม น้ำยาควรมีประสิทธิภาพเพื่อซึมลึกถึงเส้นใย ช่วยจัดการคราบได้โดยไม่ทำลายเนื้อพรม นอกจากนี้น้ำยาที่มีค่า pH เป็นกลางยังช่วยรักษาพื้นผิวในบ้านให้คงสภาพดีและลดโอกาสเกิดคราบด่างได้อีกด้วย
5. ฟองน้ำและแปรงขัด: คู่มือจัดการคราบหนักให้หมดจด
บางครั้งคราบฝังแน่นก็ทำความสะอาดยาก จึงต้องอาศัยตัวช่วยอย่างฟองน้ำและแปรงขัดเพื่อช่วยลดแรงและขัดให้คราบสกปรกออกมาโดยง่าย ฟองน้ำไมโครไฟเบอร์เหมาะสำหรับการเช็ดคราบมันในครัว ส่วนแปรงขัดขนแข็งช่วยจัดการคราบหินปูนหรือคราบสบู่ในห้องน้ำได้อย่างดี หากต้องการจัดการร่องมุม เช่น ร่องกระเบื้องหรือซอกมุมต่าง ๆ แปรงขัดขนาดเล็ก ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม อย่าลืมเปลี่ยนฟองน้ำใหม่ทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย และช่วยให้การทำความสะอาดยังคงมีประสิทธิภาพสูงสุดทุกครั้งที่ใช้งาน
เคล็ดลับเลือกใช้ อุปกรณ์ทําความสะอาดบ้าน ให้สะอาดไวไม่เปลืองแรง
เน้นง่าย ใช้งานสะดวก และประหยัดเวลา
การทำความสะอาดบ้านในยุคปัจจุบันไม่ควรเป็นงานที่ยุ่งยากหรือน่าเบื่อ ทุกวันนี้เราสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและช่วยประหยัดเวลา ทำให้การดูแลบ้านกลายเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น เช่น ไม้ถูพื้นหมุนได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดแรงบิดขณะใช้งาน และยังมีคุณสมบัติในการซับน้ำได้อย่างดีเยี่ยม จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว และอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจคือเครื่องดูดฝุ่นแบบพกพา ซึ่งเหมาะสำหรับการจัดการพื้นที่เล็ก ๆ หรือจุดที่เข้าถึงยาก เช่น บันได ร่องเฟอร์นิเจอร์ หรือขอบหน้าต่าง ด้วยขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย ช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับการใช้ไม้กวาดธรรมดา
เลือก อุปกรณ์ทําความสะอาดบ้าน ให้เหมาะกับขนาดและรูปแบบบ้านของคุณ
บ้านแต่ละหลังต่างมีลักษณะและความต้องการที่แตกต่างกัน บ้านขนาดเล็ก เช่น คอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ อาจต้องการอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เช่น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย หรือไม้ถูพื้นที่สามารถพับเก็บได้ง่าย เพื่อลดการใช้พื้นที่และช่วยจัดบ้านให้เป็นระเบียบ แต่สำหรับบ้านขนาดใหญ่ ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้น หรือเครื่องทำความสะอาดอเนกประสงค์ ที่สามารถดูแลได้ทั้งพื้น พรม และกระจก จะช่วยประหยัดเวลาและแรงงานได้มากขึ้น การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับขนาดและรูปแบบบ้านสามารถลดเวลาทำความสะอาดได้ถึง 50% ทำให้งานบ้านกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด
ดูแลรักษาอุปกรณ์ให้อยู่กับคุณได้นานขึ้น
อุปกรณ์ทำความสะอาดจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและใช้งานยาวนานขึ้นได้ ต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เช่น ไม้ถูพื้น ควรล้างหัวไม้ม็อบด้วยน้ำอุ่นหลังใช้งาน และตากในที่อากาศถ่ายเทเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย เครื่องดูดฝุ่นควรทำความสะอาดตัวกรองและถุงเก็บฝุ่นอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้เครื่องยังคงพลังดูดที่ดี และลดการสะสมของฝุ่นในอากาศ สำหรับฟองน้ำและแปรงขัด ควรเปลี่ยนใหม่ทุก 1-2 สัปดาห์ หรือทันทีเมื่อเริ่มมีกลิ่นอับ เพื่อให้การทำความสะอาดยังคงมีประสิทธิภาพ การดูแลอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อใหม่ แต่ยังทำให้อุปกรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเจอกับงานบ้านแบบไหนก็มั่นใจได้ว่าทุกอย่างจะสะอาดหมดจด!
จัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ รกแค่ไหนก็แก้ได้
จัดระเบียบแบบมือโปร แบ่งโซนให้เป็นระบบ
การจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ เริ่มต้นจากการแบ่งพื้นที่ใช้งานในบ้านออกเป็นโซนต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เช่น โซนเก็บของ โซนทำงาน และโซนพักผ่อน วิธีนี้ช่วยให้ทุกสิ่งถูกจัดวางในที่ของมันได้ง่ายขึ้น โซนเก็บของ ควรรวมสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่น ของตามฤดูกาล หรืออุปกรณ์สำรอง ไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยใช้กล่องเก็บของที่ซ้อนกันได้หรือตู้เก็บของแบบมิดชิด สำหรับโซนทำงาน ควรจัดพื้นที่ให้โล่ง ใช้ชั้นวางเอกสารหรือกล่องใส่ของที่เข้าถึงได้สะดวก เพื่อลดความยุ่งเหยิงระหว่างการใช้งาน ส่วนโซนพักผ่อนลองใช้ไอเดียแต่งบ้านและสวนเสริมลูกเล่น เช่น ห้องนั่งเล่น ควรจัดโซฟา โต๊ะกลาง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ พร้อมกับใช้สายรัดหรือกล่องเก็บสายไฟเพื่อป้องกันความรก ช่วยลดเวลาหาของได้ถึง 30% และทำให้บ้านดูสะอาดง่ายขึ้นทันตาเห็น
ใช้อุปกรณ์ช่วยจัดระเบียบ บ้านสะอาดได้ไม่ยุ่งยาก
การใช้อุปกรณ์จัดระเบียบที่เหมาะสม เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้บ้านดูเรียบร้อยและลดภาระทำความสะอาด โดยอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยม เช่น ตะกร้าจัดเก็บสำหรับของเล่นเด็กหรือหนังสือ ช่วยจัดสิ่งของให้เป็นที่ อีกทั้งชั้นวางของติดผนังเป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับพื้นที่เล็ก ๆ เช่นกัน อย่างนห้องครัวหรือห้องนั่งเล่น เพราะช่วยเพิ่มพื้นที่แนวตั้งโดยไม่ต้องขยายพื้นที่ ตู้เก็บของแบบมีล้อช่วยให้เคลื่อนย้ายสิ่งของขนาดเล็ก โดยใช้อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยลดเวลาจัดเก็บได้ถึง 20% และยังเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน ทำให้บ้านน่าอยู่และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
สร้างนิสัยใหม่ บ้านไม่รกอีกต่อไป
การจัดบ้านให้อยู่ในสภาพที่น่าอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจัดเก็บเพียงครั้งเดียว แต่ต้องอาศัยนิสัยที่ดีในชีวิตประจำวัน เช่น เก็บของทันทีหลังใช้งาน เช่น หนังสือ รีโมตทีวี หรืออุปกรณ์ทำอาหาร หมั่นทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเช็ดโต๊ะหรือปัดฝุ่นในจุดที่ใช้งานบ่อย จัดการขยะวันต่อวันแทนการสะสมไว้ในหลาย ๆ วัน ช่วยลดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์และความรกสะสม มีการกำหนดวันสำหรับจัดระเบียบ เช่น ทุกเย็นวันเสาร์ จะช่วยให้บ้านไม่กลับมารก การสร้างนิสัยเหล่านี้ทำให้การดูแลบ้านเป็นเรื่องง่ายและลดภาระในการทำความสะอาดครั้งใหญ่ได้อย่างชัดเจน
ทริคการทำความสะอาดบ้านที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น
1. เริ่มต้นจากการจัดระเบียบ เพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด
ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดบ้าน ลองจัดระเบียบสิ่งของต่าง ๆ ให้เข้าที่ก่อน เพื่อให้การจัดการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เริ่มจากแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็น เช่น ขยะหรือของที่ไม่ได้ใช้อีกแล้ว ของบางอย่างอาจนำไปบริจาคหรือขายต่อได้ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในบ้าน จากนั้นให้เริ่มทำความสะอาดในจุดที่รกหรือใช้งานมากที่สุด เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว การจัดระเบียบล่วงหน้าแบบ นี้ช่วยลดเวลาทำความสะอาดลงได้ถึง 30% และทำให้ขั้นตอนที่เหลือราบรื่นมากยิ่งขึ้น
2. ใช้ของในครัวเป็นตัวช่วย ทำความสะอาดง่ายและประหยัด
ของใช้ในครัวหลายอย่าง สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เบกกิ้งโซดา ช่วยขจัดคราบมันบนเตาและดูดซับกลิ่นในตู้เย็น น้ำส้มสายชู ใช้เช็ดกระจกให้ใสปิ๊ง และยังฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำได้ดีเยี่ยม หรือมะนาว มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยล้างคราบสนิมและคราบมันตามก๊อกน้ำหรืออ่างล้างจาน นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดการใช้สารเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย
3. ทำความสะอาดแบบโซน จัดการพื้นที่อย่างมีระบบ
ลองแบ่งบ้านออกเป็นโซน เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น จะช่วยให้การทำความสะอาดมีระเบียบและง่ายต่อการจัดการ และนอกจากการทำความสะอาดแล้ว การจัดการโซนยังเป็นโอกาสที่ดีในการปรับปรุงบรรยากาศของแต่ละพื้นที่ด้วย เช่น การเลือกภายในบ้านทาสีอะไรดีให้เหมาะสมกับแต่ละโซน เพราะสีมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกอย่างมาก หลังจากกำหนดโซนและเลือกสีที่เหมาะสม ลองจัดสรรเวลาเพื่อทำความสะอาดทีละโซน เช่น ทำความสะอาดห้องครัวในวันจันทร์ ห้องน้ำในวันพุธ และห้องนั่งเล่นในวันศุกร์ วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่ต้องจัดการทุกอย่างในคราวเดียว และยังเพิ่มความสวยงามให้แต่ละพื้นที่ บ้านที่สะอาดและมีสีสันที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณรู้สึกถึงความเรียบร้อยและความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น!
4. เคล็ดลับความรวดเร็ว ทำความสะอาดแบบมืออาชีพ
การทำความสะอาดให้ไวขึ้นนั้น เริ่มจากการจัดการคราบสกปรกทันที เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดคราบอาหารที่หกก่อนทันทีก่อนที่คราบจะฝังแน่น หมั่นเก็บขยะหรือสิ่งของที่กระจายตัวหลังใช้งาน เช่น แก้วน้ำ หรือรีโมตทีวี เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านดูรก การทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำช่วยลดภาระงานใหญ่ และยังลดเวลาในการทำความสะอาดครั้งถัดไปได้เลยทีเดียว
5. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ สร้างบรรยากาศหอมสะอาด
บ้านที่สะอาดน่าอยู่ไม่ได้หมายถึงแค่ไม่มีฝุ่น แต่ยังรวมถึงกลิ่นหอมที่สดชื่น ให้กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย ถ่านไม้หรือถ่านชาโคล ที่ช่วยดูดซับกลิ่นอับในพื้นที่แคบ ๆ เช่น ตู้เสื้อผ้าหรือห้องเก็บของ หรือจุดเทียนหอมหรือใช้เครื่องพ่นไอน้ำอโรมา ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน นอกจากช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว กลิ่นหอมยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขให้กับสมาชิกในบ้านได้อีกด้วย
6. ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้า ให้นุ่มสะอาดเหมือนใหม่
เฟอร์นิเจอร์ผ้าเองก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน เพื่อป้องกันฝุ่นสะสมและคราบสกปรกที่อาจมองไม่เห็น โดยใช้แปรงดูดฝุ่นหรือพรมจะช่วยลดปริมาณฝุ่นที่สะสมอยู่ในเนื้อผ้า หากเจอคราบเลอะ ให้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่า เช็ดเบา ๆ ที่บริเวณคราบ จากนั้นปล่อยให้แห้ง วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้คราบหลุดออก แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ให้ดูดีเหมือนใหม่
7. จัดการคราบในห้องน้ำแบบมืออาชีพ สะอาดหมดจดทุกซอกมุม
ห้องน้ำเป็นจุดที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ คราบในห้องน้ำ เช่น คราบตะกรันหรือคราบสบู่ สามารถจัดการได้ด้วย น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่น เพียงใช้เช็ดบริเวณที่เกิดคราบแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในส่วนของคราบในอ่างล้างหน้า เบกกิ้งโซดาสามารถช่วยคุณได้ เพียงโรยลงบนคราบและขัดเบา ๆ ด้วยแปรง คราบก็จะหลุดออกง่าย ๆ การดูแลห้องน้ำให้สะอาดเป็นประจำช่วยให้บ้านดูน่าอยู่และสุขอนามัยดีขึ้นอย่างมาก
การทำความสะอาดบ้านไม่ใช่เพียงหน้าที่ที่เราต้องทำให้เสร็จในแต่ละวัน แต่มันคือการดูแลพื้นที่ที่เราใช้พักผ่อน เติมพลัง และสร้างความทรงจำร่วมกับคนที่เรารัก การมีอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมจึงเปรียบเสมือนการมีผู้ช่วยมือดีที่ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย ประหยัดเวลา และทำให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจ
การเลือกใช้เครื่องมือที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบ้านมีความสำคัญมาก เพราะอุปกรณ์ที่เหมาะสมไม่ได้ช่วยแค่ให้บ้านสะอาด แต่ยังช่วยลดความยุ่งยากและประหยัดแรงในการดูแลระยะยาว บ้านที่สะอาดและเป็นระเบียบทำให้เรารู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ก้าวกลับมา และยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจของสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย ไม่ว่าบ้านของคุณจะมีขนาดใดก เลือกใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้องจะช่วยเปลี่ยนงานบ้านที่เคยดูน่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกกว่าที่เคย ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเริ่มจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ เพื่อทำให้การดูแลบ้านเป็นสิ่งที่คุณพร้อมจะทำอย่างมีความสุขในทุก ๆ วัน!
คำถามที่พบบ่อย
- เราควรเลือกซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดจากอะไรเป็นหลัก?
การเลือกอุปกรณ์ควรพิจารณาจากความเหมาะสมของการใช้งานและวัสดุที่ใช้ เช่น ไม้กวาดสำหรับพื้นไม้ควรเลือกแบบขนนุ่มเพื่อลดรอยขีดข่วน หรือเครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์กรองฝุ่นละเอียดเพื่อป้องกันภูมิแพ้ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงความทนทานและการรับประกันสินค้าเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว
- หากมีบ้านขนาดเล็กควรใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดแบบไหน?
สำหรับบ้านขนาดเล็กหรือคอนโด ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เช่น ไม้ถูพื้นพับเก็บได้ หรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ใช้งานง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ หรือเลือกใช้อุปกรณ์แบบมัลติฟังก์ชัน เช่น แปรงขัดที่สามารถเปลี่ยนหัวได้ ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกได้อีกระดับ
- เราควรดูแลรักษาอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างไรดี?
ควรล้างทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง เช่น หัวไม้ม็อบควรซักและตากแดดให้แห้ง หรือถุงเก็บฝุ่นในเครื่องดูดฝุ่นควรเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิต นอกจากนี้ ควรจัดเก็บอุปกรณ์ในที่แห้งและปลอดโปร่งเพื่อลดความชื้นและป้องกันการเกิดเชื้อรา
- มีทริคการทำความสะอาดให้บ้านดูใหม่อยู่เสมอมีอะไรบ้างไหม?
ก่อนเริ่มทำความสะอาดให้บ้านดูใหม่ควรเริ่มจากการจัดระเบียบพื้นที่ก่อน เช่น การเก็บของใช้เข้าที่ทันทีหลังใช้งาน และการทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำ เช่น เช็ดโต๊ะหรือดูดฝุ่นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นอกจากนี้ การใช้เทคนิคง่าย ๆ อย่างน้ำส้มสายชูเช็ดกระจกให้ใส หรือเบกกิ้งโซดาขจัดคราบ ก็ช่วยเพิ่มความสดใสให้บ้านได้อย่างเห็นผลทันที
อ้างอิง
- Rachel Wray Thompson, The 10 Best Cleaning Tools Every Home Should Have, Apartment Therapy, December 5, 2023, https://www.apartmenttherapy.com/10-cleaning-tools-every-house-should-have-182345
- Jolie Kerr, 10 Essential Cleaning Tools to Keep Your Home Sparkling, Better Homes & Gardens, April 18, 2023, https://www.bhg.com/essential-cleaning-tools-7377862
- Cleaning Supply Checklist, Molly maid, September, 2023, https://www.mollymaid.com/cleaning-tips/schedules-charts-and-checklists/cleaning-supply-checklist/